เกี่ยวกับโครงงาน

เกี่ยวกับโครงงานเกี่ยวกับโครงงาน

 ยุงเป็นแมลงที่มีการแพร่กระจายอยู่ทั่วโลก มีรายงานพบเกือบทุกพื้นที่ทั้งในเขตร้อน เขตอบอุ่น เขตหนาว ยุงมีความสำคัญทางการแพทย์ในแง่เป็นพาหะแพร่เชื้อโรคหรือปรสิตต่างๆ ผ่านทางการกินเลือด ซึ่งการกัดของยุงนอกจากจะก่อให้เกิดความรำคาญ สูญเสียเลือด หรือในบางรายอาจมีอาการแพ้โปรตีนในน้ำลายยุงอย่างรุนแรง ทำให้เกิดตุ่มหรือแผลพุพองบริเวณผิวหนัง การกัดกินเลือดของยุงหลายชนิดสามารถนำโรคติดต่อร้ายแรงมาสู่มนุษย์ได้อีกด้วย ดังนั้นการควบคุมโรคตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันจึงเน้นไปที่การควบคุมยุงพาหะเป็นสำคัญ ซึ่งสามารถทำได้หลากหลายวิธีและมีวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ โดยวิธีที่ให้ผลดีที่สุดในการกำจัดยุงพาหะ คือ การใช้สารเคมีสังเคราะห์หรือสารฆ่าแมลง ซึ่งสารเคมีที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีมากมายหลายชนิด เช่น Abate, Fenthion, Fenitrothion, 2-hydroxy-methyl-cyclohexyl acetic acid lactone (CIC-4), Permethrin, และ Dieldrin อย่างไรก็ตามจากการศึกษาพบว่าสารเคมีเหล่านี้แม้จะใช้ได้ผลดี มีประสิทธิภาพสูง แต่จะมีอันตรายหรือมีผลข้างเคียงต่อคนและสัตว์เลี้ยง รวมไปถึงแมลงอื่นๆ เป็นต้นโดยประโยชน์ทางเกษตรกรรม นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกได้พยายามหาวิธีการต่างๆ มาใช้ในการควบคุมยุงพาหะทดแทนการใช้สารเคมี อาทิ การใช้สารสกัดจากธรรมชาติ (Natural chemicals) การใช้สิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติมาควบคุมกันเอง (Biological control) การจัดการทางสภาพแวดล้อม (Environmental management) การใช้เครื่องมือในการกำจัดแมลง (Mechanical control) และการใช้วิธีควบคุมหลายๆ วิธีมาประกอบกัน (Integrated control) เพื่อให้สามารถควบคุมยุงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 กลุ่มนักเรียนเจ้าของโครงงานเรื่อง ศึกษาผลของสารจากใบในการกำจัดยุงก้นปล่องและยุงลาย ประกอบด้วย นาย พิสิษฐ์ ฟองน้ำทิพย์ นาย วีระศักดิ์ หมื่นแก้ว นาย ทนงศักดิ์ สมวงศ์ นาย สุพัฒน์ อินทะแสง
โดยเรามีความเห็นว่า การใช้สารสังเคราะห์ทางเคมี ในการฆ่าลูกน้ำยุงป้องกันการวางไข่ของยุงและไล่ยุงนั้น ก่อให้เกิดโทษต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม พวกเธอและเขาจึงมีแนวคิดว่าน่าจะทดลองสกัดสารจากพืชบางชนิด เพื่อนำมาใช้ในการกำจัดยุงแทน โดยได้ศึกษาหาสารสกัดจากพืช ที่มีผลต่อยุงร้าย 2 ชนิด คือ ยุงก้นปล่องและยุงลาย

โครงงานวิทยาศาสตร์ของนักเรียนกลุ่มนี้ นับเป็นโครงงานที่น่าสนใจโครงงานหนึ่งในการหาวิธีการกำจัดยุง ด้วยสารที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น